สั่งเค้กให้โดนใจ เริ่มจากการรู้จัก 4 ประเภทของเค้กที่ต่างกัน

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเค้กเหมือนกัน แต่เค้กแต่ละประเภทก็มาพร้อมกับเนื้อสัมผัสและรสชาติที่แตกต่างกัน จากทั้งกรรมวิธี ส่วนผสม ไปจนถึงอุณหภูมิและขั้นตอนในการอบ หากคุณเป็นอีกคนที่ชื่นชอบขนมเค้กทุกประเภทและกำลังมองหาเค้กเพื่อจัดงานเลี้ยงสำคัญ แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกเนื้อเค้กแบบใด ให้ตอบโจทย์ความต้องการและรสชาติที่ตามหา วันนี้มาทำความรู้จัก 4 ประเภทของเค้ก เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจรสชาติและเนื้อสัมผัสของเค้กแต่ละชนิดให้มากขึ้นกัน รับรอง! อ่านจบแล้วเลือกชนิดของเค้กได้ตรงใจแน่นอน

1. เค้กสปันจ์ (Sponge Cake)

มาเริ่มต้นที่ประเภทของเค้กที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง ‘เค้กสปันจ์’ หรือ Sponge Cake กันก่อน โดยลำพังแค่ดูจากชื่อของเค้กแล้วก็คาดเดาได้ไม่ยากเลยว่า เค้กสปันจ์จะต้องมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มฟูและแน่นกำลังพอดี ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับการกดฟองน้ำ ส่วนใหญ่แล้ว เค้กสปันจ์มักนิยมนำมาทำเป็นเค้กโรล คัพเค้ก ไปจนถึงเค้กปอนด์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเค้กที่เนื้อไม่หนัก

นอกจากการกำหนดสัดส่วนของวัตถุดิบให้เหมาะสมแล้ว ความสดใหม่และคุณภาพของวัตถุดิบก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ควบคุมรสชาติและสัมผัสที่ลงตัวของเค้กสปันจ์เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพของวัตถุดิบสำคัญอย่างไข่และเนย

หากยิ่งเลือกใช้ไข่ที่มีความสดใหม่และผ่านการควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม ก็จะสามารถตีไข่ให้ขึ้นฟูได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เนื้อเค้กขยายตัวได้เต็มที่ มีสัมผัสที่นุ่มฟูและแน่นกำลังพอดีจนเป็นที่ถูกอกถูกใจของใครหลายคน

นอกจากนี้ เนยที่นำมาใช้ทำเค้กสปันจ์เองก็ควรเป็นเนยสด หรือเนยจืด ที่มีเนื้อแน่นกำลังพอดี เพราะหากเลือกใช้เนยเนื้อหนัก หรือใส่มากจนเกินไปก็จะทำให้เค้กสปันจ์มีเนื้อแน่น หรือกลายเป็นเค้กเนย หรือ Butter Cake ไปเลยก็เป็นได้

2. เค้กเนย (Butter Cake)

สำหรับใครที่ชื่นชอบเค้กเนื้อหนัก นุ่มแน่น และมีรสสัมผัสความชุ่มฉ่ำและหอมเนยอย่างชัดเจน ชนิดของเค้กในดวงใจก็คงจะหนีไม่พ้น ‘เค้กเนย’ หรือ ‘บัตเตอร์เค้ก’ (Butter Cake) เป็นแน่แท้

บัตเตอร์เค้ก เป็นหนึ่งในประเภทของเค้กที่ทำได้ง่าย ๆ ใช้ส่วนผสมเพียงแค่แป้ง น้ำตาล และเนยเท่านั้น โดยการใช้ส่วนผสมของเนยที่ค่อนข้างมากนี้ ส่งผลให้เกิดฟองอากาศค่อนข้างน้อยทั้งในระหว่างตีส่วนผสมและอบเค้ก จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมบัตเตอร์เค้กถึงมีเนื้อที่แน่นและหนักกว่าเค้กประเภทอื่น ๆ นั่นเอง

อย่างไรก็ดี หลายคนเชื่อว่า บัตเตอร์เค้กเป็นประเภทของเค้กที่เน้นการใส่เนยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากไม่บาลานซ์ส่วนผสมทั้งหมดให้ลงตัว เค้กก็อาจจะมีความแฉะจากเนยที่มากเกินไป แข็งกระด้างจากสัดส่วนแป้งที่ไม่เหมาะสม หรืออาจหวานเกินไปจากการใส่น้ำตาลที่ไม่พอดี

นอกจากนี้ การทำบัตเตอร์เค้กให้อร่อยยังควรเลือกใช้เนยสด หรือเนยจืด ที่ให้รสสัมผัสที่นุ่มนวล ไม่มัน หรือมีรสแหลมจนเกินไป เพราะอาจทำให้บัตเตอร์เค้กมีรสชาติที่เลี่ยนได้ หรือหากใครชอบเค้กที่มีรสของเนยแบบฉ่ำ ๆ ก็สามารถใส่ส่วนผสมอื่นเพื่อเพิ่มรสสัมผัสได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลไม้แห้ง ถั่ว ผลไม้สดหั่นชิ้นเล็ก หรือจะนำช็อกโกแลตมาละลายและทำเป็นลายหินอ่อนก็กลมกล่อมเข้ากับเนยไม่แพ้กัน

3. เค้กชิฟฟอน (Chiffon Cake)

หากใครไม่ชื่นชอบเนื้อสัมผัสที่หนักแน่นของบัตเตอร์เค้ก อีกทั้งยังรู้สึกว่าเค้กสปันจ์เองก็มีเนื้อที่เบาบางจนเกินไป มั่นใจได้เลยว่า เค้กชิฟฟอน หรือ Chiffon Cake ต้องเป็นประเภทของเค้กที่จะทำให้คุณตกหลุมรักได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

หากเปรียบเทียบกับเค้กสปันจ์และบัตเตอร์เค้กแล้ว เค้กชิฟฟอนจะมีการใช้ ‘น้ำมันพืช’ หรือ ‘มาร์การีน’ แทนการใช้เนย อีกทั้งยังมีการใช้ผงฟู และมีการตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้ตั้งยอดเป็นเมอร์แรงค์ (Meringue) ก่อนที่จะนำไปผสมกับส่วนผสมแห้งอื่น ๆ อีกด้วย

จากกรรมวิธีที่เพิ่มขึ้นมานี้ จึงทำให้เค้กชิฟฟอนมาพร้อมกับเนื้อสัมผัสที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความนุ่มฟูของเค้กสปันจ์และความหนักแน่นของบัตเตอร์เค้ก ในแต่ละคำที่ได้ลิ้มลองจะสัมผัสได้ถึงเนื้อที่เนียนละเอียด นุ่มกำลังพอดี แถมยังมีความแน่นที่กำลังพอเหมาะ ทำให้สามารถนำมาตกแต่งได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในชนิดของเค้กที่นิยมนำมาทำคัพเค้กอีกด้วย

ชนิดของเค้กที่ต่างกันตามเนื้อเค้ก

4. เค้กเนื้อพิเศษ

นอกเหนือจากประเภทของเค้กทั้ง 3 แบบข้างต้นแล้ว ในโลกของขนมเค้กยังมีการจัดประเภทเค้กเนื้อพิเศษเอาไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  • มูสเค้ก (Mousse Cake) เป็นเค้กที่ไม่มีส่วนผสมของแป้ง แต่จะใช้ไข่ขาวและวิปครีมเป็นส่วนผสมหลัก ทำให้เนื้อเค้กมีความนุ่มฟูเหมือนการทานวิปครีม นอกจากนี้ยังมีการผสมเจลาตินเพื่อทำให้เค้กเซตตัวอีกด้วย ส่วนใหญ่แล้ว มูสเค้กมักจะนิยมรับประทานกันแบบเย็น
  • เค้กไข่ขาว (Angel Food Cake) เป็นประเภทของเค้กที่ไม่มีการผสมไข่แดง แต่จะเป็นการใช้ไข่ขาวตีเข้ากับน้ำตาล อีกทั้งยังมีการผสมครีมออฟทาทาร์เพื่อช่วยให้ไข่ขาวขึ้นฟูอีกด้วย
  • ชีสเค้ก (Cheesecake) เป็นชนิดของเค้กที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย ทั้งยังสามารถทำได้ง่าย ๆ ได้ทั้งแบบใช้และไม่ใช้เตาอบ ส่วนผสมหลักในชีสเค้กจะประกอบไปด้วยไข่ ครีมชีส น้ำตาล และเนย
  • เครปเค้ก (Crepe Cake) เป็นการสร้างชั้นเค้กจากเครปที่วางสลับกับครีมสด นิยมทานคู่กับซอสรสเปรี้ยวหวาน ส่วนผสมหลักของเครปนั้นจะประกอบไปด้วยแป้งสาลี น้ำตาล นม เนย และไข่ จากนั้นจึงนำส่วนผสมที่ตีให้เข้ากันแล้วไปจี่ลงบนกระทะ
  • เค้กไอศกรีม (Ice Cream Cake) เป็นเค้กที่นำไอศกรีมมาซ้อนกันเป็นเนื้อเค้ก ซึ่งบางร้านอาจมีการใช้ผลไม้สด หรือครีมสดในการตกแต่งหน้าเค้กเพิ่มเติม

เพียงเท่านี้ ทุกคนก็รู้จักประเภทของเค้ก คัพเค้ก ตลอดจนเนื้อเค้กแต่ละแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากใครชื่นชอบเนื้อเค้กแบบไหนและต้องการจัดเลี้ยงงานสำคัญด้วยเค้กแสนอร่อยตามเนื้อสัมผัสที่ชอบ Finally Me Bakery มาพร้อมบริการรับทำคัพเค้ก และ ชุด snack box จากวัตถุดิบคุณภาพสูง รับทำคัพเค้กทุกรสชาติและทุกการตกแต่งเพื่อสร้างความประทับใจให้แขกคนสำคัญทุกงาน ครบจบทุกงบประมาณในรสชาติและความละมุนที่ใช่! ต้องการสั่งทำคัพเค้กแบบไหน โทรสั่งได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่เบอร์ 093-524-2461

2320 
ถนน กรุงเทพ - นนทบุรี
แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ
กรุงเทพฯ 10800
Working Hours
วันจันทร์ - วันอาทิตย์
เวลา 11.00 น. - 22.00 น.
Contact us
Tel : 093-524-2461
WWW.FINALLYMEBAKERY.COM
Home
ขายส่ง
พอดีคำ
สำหรับวันพิเศษ
How to pay
Contact us
Finally Me Bakery & More
 : 093-5242461

สั่งเค้กให้โดนใจ เริ่มจากการรู้จัก 4 ประเภทของเค้กที่ต่างกัน

แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเค้กเหมือนกัน แต่เค้กแต่ละประเภทก็มาพร้อมกับเนื้อสัมผัสและรสชาติที่แตกต่างกัน จากทั้งกรรมวิธี ส่วนผสม ไปจนถึงอุณหภูมิและขั้นตอนในการอบ หากคุณเป็นอีกคนที่ชื่นชอบขนมเค้กทุกประเภทและกำลังมองหาเค้กเพื่อจัดงานเลี้ยงสำคัญ แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกเนื้อเค้กแบบใด ให้ตอบโจทย์ความต้องการและรสชาติที่ตามหา วันนี้มาทำความรู้จัก 4 ประเภทของเค้ก เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจรสชาติและเนื้อสัมผัสของเค้กแต่ละชนิดให้มากขึ้นกัน รับรอง! อ่านจบแล้วเลือกชนิดของเค้กได้ตรงใจแน่นอน

1. เค้กสปันจ์ (Sponge Cake)

มาเริ่มต้นที่ประเภทของเค้กที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง ‘เค้กสปันจ์’ หรือ Sponge Cake กันก่อน โดยลำพังแค่ดูจากชื่อของเค้กแล้วก็คาดเดาได้ไม่ยากเลยว่า เค้กสปันจ์จะต้องมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มฟูและแน่นกำลังพอดี ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับการกดฟองน้ำ ส่วนใหญ่แล้ว เค้กสปันจ์มักนิยมนำมาทำเป็นเค้กโรล คัพเค้ก ไปจนถึงเค้กปอนด์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเค้กที่เนื้อไม่หนัก

นอกจากการกำหนดสัดส่วนของวัตถุดิบให้เหมาะสมแล้ว ความสดใหม่และคุณภาพของวัตถุดิบก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ควบคุมรสชาติและสัมผัสที่ลงตัวของเค้กสปันจ์เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพของวัตถุดิบสำคัญอย่างไข่และเนย

หากยิ่งเลือกใช้ไข่ที่มีความสดใหม่และผ่านการควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม ก็จะสามารถตีไข่ให้ขึ้นฟูได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เนื้อเค้กขยายตัวได้เต็มที่ มีสัมผัสที่นุ่มฟูและแน่นกำลังพอดีจนเป็นที่ถูกอกถูกใจของใครหลายคน

นอกจากนี้ เนยที่นำมาใช้ทำเค้กสปันจ์เองก็ควรเป็นเนยสด หรือเนยจืด ที่มีเนื้อแน่นกำลังพอดี เพราะหากเลือกใช้เนยเนื้อหนัก หรือใส่มากจนเกินไปก็จะทำให้เค้กสปันจ์มีเนื้อแน่น หรือกลายเป็นเค้กเนย หรือ Butter Cake ไปเลยก็เป็นได้

2. เค้กเนย (Butter Cake)

สำหรับใครที่ชื่นชอบเค้กเนื้อหนัก นุ่มแน่น และมีรสสัมผัสความชุ่มฉ่ำและหอมเนยอย่างชัดเจน ชนิดของเค้กในดวงใจก็คงจะหนีไม่พ้น ‘เค้กเนย’ หรือ ‘บัตเตอร์เค้ก’ (Butter Cake) เป็นแน่แท้

บัตเตอร์เค้ก เป็นหนึ่งในประเภทของเค้กที่ทำได้ง่าย ๆ ใช้ส่วนผสมเพียงแค่แป้ง น้ำตาล และเนยเท่านั้น โดยการใช้ส่วนผสมของเนยที่ค่อนข้างมากนี้ ส่งผลให้เกิดฟองอากาศค่อนข้างน้อยทั้งในระหว่างตีส่วนผสมและอบเค้ก จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมบัตเตอร์เค้กถึงมีเนื้อที่แน่นและหนักกว่าเค้กประเภทอื่น ๆ นั่นเอง

อย่างไรก็ดี หลายคนเชื่อว่า บัตเตอร์เค้กเป็นประเภทของเค้กที่เน้นการใส่เนยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากไม่บาลานซ์ส่วนผสมทั้งหมดให้ลงตัว เค้กก็อาจจะมีความแฉะจากเนยที่มากเกินไป แข็งกระด้างจากสัดส่วนแป้งที่ไม่เหมาะสม หรืออาจหวานเกินไปจากการใส่น้ำตาลที่ไม่พอดี

นอกจากนี้ การทำบัตเตอร์เค้กให้อร่อยยังควรเลือกใช้เนยสด หรือเนยจืด ที่ให้รสสัมผัสที่นุ่มนวล ไม่มัน หรือมีรสแหลมจนเกินไป เพราะอาจทำให้บัตเตอร์เค้กมีรสชาติที่เลี่ยนได้ หรือหากใครชอบเค้กที่มีรสของเนยแบบฉ่ำ ๆ ก็สามารถใส่ส่วนผสมอื่นเพื่อเพิ่มรสสัมผัสได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลไม้แห้ง ถั่ว ผลไม้สดหั่นชิ้นเล็ก หรือจะนำช็อกโกแลตมาละลายและทำเป็นลายหินอ่อนก็กลมกล่อมเข้ากับเนยไม่แพ้กัน

3. เค้กชิฟฟอน (Chiffon Cake)

หากใครไม่ชื่นชอบเนื้อสัมผัสที่หนักแน่นของบัตเตอร์เค้ก อีกทั้งยังรู้สึกว่าเค้กสปันจ์เองก็มีเนื้อที่เบาบางจนเกินไป มั่นใจได้เลยว่า เค้กชิฟฟอน หรือ Chiffon Cake ต้องเป็นประเภทของเค้กที่จะทำให้คุณตกหลุมรักได้อีกครั้งอย่างแน่นอน

หากเปรียบเทียบกับเค้กสปันจ์และบัตเตอร์เค้กแล้ว เค้กชิฟฟอนจะมีการใช้ ‘น้ำมันพืช’ หรือ ‘มาร์การีน’ แทนการใช้เนย อีกทั้งยังมีการใช้ผงฟู และมีการตีไข่ขาวกับน้ำตาลให้ตั้งยอดเป็นเมอร์แรงค์ (Meringue) ก่อนที่จะนำไปผสมกับส่วนผสมแห้งอื่น ๆ อีกด้วย

จากกรรมวิธีที่เพิ่มขึ้นมานี้ จึงทำให้เค้กชิฟฟอนมาพร้อมกับเนื้อสัมผัสที่อยู่กึ่งกลางระหว่างความนุ่มฟูของเค้กสปันจ์และความหนักแน่นของบัตเตอร์เค้ก ในแต่ละคำที่ได้ลิ้มลองจะสัมผัสได้ถึงเนื้อที่เนียนละเอียด นุ่มกำลังพอดี แถมยังมีความแน่นที่กำลังพอเหมาะ ทำให้สามารถนำมาตกแต่งได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในชนิดของเค้กที่นิยมนำมาทำคัพเค้กอีกด้วย

ชนิดของเค้กที่ต่างกันตามเนื้อเค้ก

4. เค้กเนื้อพิเศษ

นอกเหนือจากประเภทของเค้กทั้ง 3 แบบข้างต้นแล้ว ในโลกของขนมเค้กยังมีการจัดประเภทเค้กเนื้อพิเศษเอาไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะประกอบไปด้วย

  • มูสเค้ก (Mousse Cake) เป็นเค้กที่ไม่มีส่วนผสมของแป้ง แต่จะใช้ไข่ขาวและวิปครีมเป็นส่วนผสมหลัก ทำให้เนื้อเค้กมีความนุ่มฟูเหมือนการทานวิปครีม นอกจากนี้ยังมีการผสมเจลาตินเพื่อทำให้เค้กเซตตัวอีกด้วย ส่วนใหญ่แล้ว มูสเค้กมักจะนิยมรับประทานกันแบบเย็น
  • เค้กไข่ขาว (Angel Food Cake) เป็นประเภทของเค้กที่ไม่มีการผสมไข่แดง แต่จะเป็นการใช้ไข่ขาวตีเข้ากับน้ำตาล อีกทั้งยังมีการผสมครีมออฟทาทาร์เพื่อช่วยให้ไข่ขาวขึ้นฟูอีกด้วย
  • ชีสเค้ก (Cheesecake) เป็นชนิดของเค้กที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย ทั้งยังสามารถทำได้ง่าย ๆ ได้ทั้งแบบใช้และไม่ใช้เตาอบ ส่วนผสมหลักในชีสเค้กจะประกอบไปด้วยไข่ ครีมชีส น้ำตาล และเนย
  • เครปเค้ก (Crepe Cake) เป็นการสร้างชั้นเค้กจากเครปที่วางสลับกับครีมสด นิยมทานคู่กับซอสรสเปรี้ยวหวาน ส่วนผสมหลักของเครปนั้นจะประกอบไปด้วยแป้งสาลี น้ำตาล นม เนย และไข่ จากนั้นจึงนำส่วนผสมที่ตีให้เข้ากันแล้วไปจี่ลงบนกระทะ
  • เค้กไอศกรีม (Ice Cream Cake) เป็นเค้กที่นำไอศกรีมมาซ้อนกันเป็นเนื้อเค้ก ซึ่งบางร้านอาจมีการใช้ผลไม้สด หรือครีมสดในการตกแต่งหน้าเค้กเพิ่มเติม

เพียงเท่านี้ ทุกคนก็รู้จักประเภทของเค้ก คัพเค้ก ตลอดจนเนื้อเค้กแต่ละแบบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากใครชื่นชอบเนื้อเค้กแบบไหนและต้องการจัดเลี้ยงงานสำคัญด้วยเค้กแสนอร่อยตามเนื้อสัมผัสที่ชอบ Finally Me Bakery มาพร้อมบริการรับทำคัพเค้ก และ ชุด snack box จากวัตถุดิบคุณภาพสูง รับทำคัพเค้กทุกรสชาติและทุกการตกแต่งเพื่อสร้างความประทับใจให้แขกคนสำคัญทุกงาน ครบจบทุกงบประมาณในรสชาติและความละมุนที่ใช่! ต้องการสั่งทำคัพเค้กแบบไหน โทรสั่งได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่เบอร์ 093-524-2461

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
2320 
ถนน กรุงเทพ - นนทบุรี
แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ
กรุงเทพฯ 10800
Working Hours
วันจันทร์ - วันอาทิตย์
เวลา 11.00 น. - 22.00 น.
Contact us
Tel : 093-524-2461
WWW.FINALLYMEBAKERY.COM